简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
Triple Top Pattern คืออะไร? วิธีอ่านกราฟและเทรดอย่างมืออาชีพ
บทคัดย่อ:Triple Top Pattern เป็นรูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น โดยจะมีลักษณะเป็น จุดสูงสุด (High) 3 จุด ที่มีระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งหมายความว่าราคาพยายามเบรกแนวต้านถึง 3 ครั้งแต่ไม่สามารถผ่านไปได้ และสุดท้ายมักจะกลับตัวลง แพทเทิร์นนี้มีลักษณะคล้ายกับ Double Top แต่แตกต่างกันตรงที่ Triple Top จะเกิด ยอด 3 ครั้ง ก่อนจะหลุดแนวรับที่เรียกว่า Neckline และยืนยันการกลับตัว เมื่อไหร่ที่ราคาทะลุ Neckline ลงมาได้ นั่นเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นสิ้นสุดลง และอาจเข้าสู่แนวโน้มขาลงทันที

แอดเหยี่ยวจะพามาทำความรู้จักกับ “Triple Top Pattern” แพทเทิร์นยอดฮิตที่นักเทรดสายเทคนิคต้องรู้ เพราะเป็นตัวช่วยสำคัญในการคาดเดาทิศทางของตลาดได้อย่างแม่นยำ หากใครเคยเจอกราฟที่พยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านหลายรอบแต่ไม่ผ่านซักที แล้วสุดท้ายก็ร่วงลงมา นั่นแหละ คือสัญญาณของ Triple Top ที่บอกว่าตลาดกำลังหมดแรงและมีโอกาสกลับตัวลง ซึ่งถ้าเราจับจังหวะได้ดี ก็อาจทำกำไรจากมันได้แบบเนียน ๆ
Triple Top Pattern คืออะไร
Triple Top Pattern เป็นรูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น โดยจะมีลักษณะเป็น จุดสูงสุด (High) 3 จุด ที่มีระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งหมายความว่าราคาพยายามเบรกแนวต้านถึง 3 ครั้งแต่ไม่สามารถผ่านไปได้ และสุดท้ายมักจะกลับตัวลง
แพทเทิร์นนี้มีลักษณะคล้ายกับ Double Top แต่แตกต่างกันตรงที่ Triple Top จะเกิด ยอด 3 ครั้ง ก่อนจะหลุดแนวรับที่เรียกว่า Neckline และยืนยันการกลับตัว
เมื่อไหร่ที่ราคาทะลุ Neckline ลงมาได้ นั่นเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นสิ้นสุดลง และอาจเข้าสู่แนวโน้มขาลงทันที
วิธีอ่านกราฟ Triple Top Pattern
- มองหาจุด High 3 จุด ที่ระดับใกล้เคียงกัน (แนวต้าน)
- ดูแนวรับ (Neckline) ว่ามีจุดต่ำสุดที่ราคากลับตัวลงมาชนแล้วเด้งขึ้นไปอีกหรือไม่
- ถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ถึง 3 ครั้ง และสุดท้ายหลุดแนวรับลงมา นั่นคือสัญญาณขาย
Key สำคัญ
- ถ้าราคาหลุด Neckline = เข้าสู่แนวโน้มขาลง
- ถ้ายังไม่หลุด = ยังไม่มีสัญญาณขายที่ชัดเจน
วิธีเทรดด้วย Triple Top Pattern
- เข้าออเดอร์เมื่อราคาหลุด Neckline (Sell Stop)
- ตั้ง Stop Loss เหนือยอดที่สาม กันพอร์ตพัง
- ตั้ง Take Profit ตามระดับแนวรับถัดไป หรือใช้วิธีวัดความสูงของแพทเทิร์นแล้วนำไปตั้งเป้า
ทริคของแอดเหยี่ยว
- ถ้าจะให้ชัวร์ ควรรอให้ราคาปิดแท่งใต้ Neckline ก่อนเข้าออเดอร์
- ดู Volume ประกอบ ถ้า Volume ลดลงตอนเกิดแพทเทิร์น แล้วเพิ่มขึ้นตอนหลุด Neckline = ยืนยันสัญญาณขาย
Triple Top ต่างจาก Triple Bottom ยังไง
- Triple Top → สัญญาณขาลงกราฟพยายามขึ้น 3 ครั้ง แต่ไม่ผ่านแนวต้าน สุดท้ายหลุดแนวรับและร่วง
- Triple Bottom → สัญญาณขาขึ้นกราฟพยายามลง 3 ครั้ง แต่ไม่หลุดแนวรับ สุดท้ายทะลุแนวต้านและขึ้นต่อ
ง่าย ๆ เลย ถ้า Triple Top เป็นภูเขา 3 ลูก Triple Bottom ก็คือภูเขากลับหัว 3 ลูกนั่นเอง
ถ้าอยากเทรดให้แม่นยำขึ้น แอดเหยี่ยวแนะนำให้ศึกษาการอ่านกราฟเบื้องต้นเพิ่มเติม แล้วนำแพทเทิร์นนี้ไปใช้กับการเทรด Forex หรือหุ้นได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก uhas
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

อยากเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว แต่ก่อนจะลาออกชาวออฟฟิศต้องทำสิ่งนี้!!
ก่อนจะลาออกจากงานประจำเพื่อเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมทางการเงินและเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถรับมือความเสี่ยงในตลาดได้อย่างมั่นใจ สิ่งที่ควรทำได้แก่ การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน 6–12 เดือน ใช้สิทธิ์ประกันสังคมและเงินชดเชยว่างงาน จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างเหมาะสม ขอคืนเงินประกันการทำงาน และเก็บเอกสารสำคัญจากนายจ้างให้ครบ การเตรียมตัวเหล่านี้ช่วยให้การก้าวสู่ชีวิตเทรดเดอร์เต็มเวลาราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

"ค่า Spread คือดาบสองคม"สิ่งที่มือใหม่ต้องระวังก่อนเทรดจริง
บทความนี้อธิบายความสำคัญของค่า Spread ซึ่งเป็นต้นทุนแฝงที่นักเทรดต้องจ่ายทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ในตลาด Forex แม้จะเป็นตัวเลขเล็ก ๆ แต่มีผลโดยตรงต่อกำไร โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้กลยุทธ์ที่ต้องเปิด–ปิดออเดอร์บ่อยอย่าง Scalping หรือ Day Trading ค่า Spread ที่สูงสามารถลดทอนผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ นักเทรดมือใหม่จึงควรให้ความสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำ ระวังช่วงตลาดผันผวนที่ Spread อาจขยายตัว และนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาคำนวณรวมในระบบบริหารความเสี่ยง บทความสรุปว่า การเข้าใจและจัดการ Spread อย่างถูกต้องจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเทรด และเสริมความมั่นใจในการทำกำไรในตลาด Forex

ฟอเร็กซ์ vs หุ้น ความเสี่ยงตัวไหนแรงกว่า? เจาะลึกด้วยหลัก Money Management
บทความนี้อธิบายความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด Forex และตลาดหุ้น โดยชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงไม่ได้เกิดจากตัวตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้ Leverage การบริหารเงิน และวินัยของเทรดเดอร์เป็นหลัก Forex ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากความผันผวนรวดเร็วและ Leverage สูง ขณะที่หุ้นมีความผันผวนต่ำกว่าและควบคุมความเสี่ยงได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีระบบ Money Management ที่ดี Forex ก็สามารถลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสได้เช่นกัน สรุปคือ การเลือกตลาดควรพิจารณาจากสไตล์และวินัยของผู้ลงทุนมากกว่าตัวตลาดเอง.

เช็กปฏิทินข่าวสำคัญประจําสัปดาห์! มีเหตุการณ์อะไรน่าติดตามบ้าง
ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจําสัปดาห์
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
EC markets
HFM
FXTM
TMGM
VT Markets
GTCFX
EC markets
HFM
FXTM
TMGM
VT Markets
WikiFX โบรกเกอร์
GTCFX
EC markets
HFM
FXTM
TMGM
VT Markets
GTCFX
EC markets
HFM
FXTM
TMGM
VT Markets
