简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
กว่าจะเทรดกันได้เหมือนทุกวันนี้... รู้ไหมว่า FX เกิดขึ้นได้ยังไง?
บทคัดย่อ:ตลาด Forex ในปัจจุบันที่เปิดกว้างให้ใครก็สามารถเทรดค่าเงินได้ผ่านมือถือ มีจุดเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอดีต โดยเฉพาะระบบ Bretton Woods ในปี 1944 ซึ่งกำหนดให้ทุกประเทศผูกค่าเงินกับดอลลาร์ และดอลลาร์ผูกกับทองคำ ก่อนที่สหรัฐฯ จะยกเลิกระบบดังกล่าวในปี 1971 ส่งผลให้ค่าเงินลอยตัวตามกลไกตลาด ตั้งแต่นั้นมา การเทรดค่าเงินที่เคยเป็นเรื่องของรัฐและสถาบันการเงิน ก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นในยุคอินเทอร์เน็ต จนกลายเป็นตลาดระดับโลกมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ต่อวันในปัจจุบัน บทความชวนผู้อ่านมองย้อนอดีตเพื่อเข้าใจรากเหง้าของระบบการเงินโลก และตระหนักว่าการเทรดไม่ใช่แค่เรื่องกราฟ แต่คือผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงระดับโลกตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ลองจินตนาการดู...ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อ 40-50 ปีก่อน แล้วคุณเดินเข้าไปบอกใครสักคนว่า “อีกหน่อยคนทั่วไปจะเทรดค่าเงินได้ผ่านมือถือ แค่เชื่อมเน็ตกับแอป” คุณอาจโดนหัวเราะกลับมาด้วยซ้ำ เพราะในยุคนั้น การซื้อขายค่าเงินเป็นเรื่องของแบงก์ใหญ่ รัฐบาล และข้อตกลงระหว่างประเทศเท่านั้น
แต่โลกการเงินมันไม่เคยอยู่นิ่ง และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดเทรดระดับโลกที่เราใช้กันทุกวันนี้
บทความนี้ แอดจะพาย้อนรอยประวัติศาสตร์แบบสนุก ๆ ไม่ชวนง่วง ตั้งแต่วันที่ผู้นำโลกนั่งประชุมกันบนโต๊ะกลมที่ Bretton Woods จนมาถึงวันที่เทรดเดอร์เปิดออร์เดอร์ได้ในร้านกาแฟ เพราะถ้าจะเข้าใจ “เกมเงิน” ให้ดีจริง บางทีก็ต้องกลับไปดูตอนเริ่มเกมนั่นแหละ
ไม่มี MetaTrader มีแต่ทองกับดอลลาร์
ย้อนเวลากลับไปปี 1944 (ใช่ครับ เจ็ดสิบกว่าปีมาแล้ว) โลกเพิ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 แบบหัวแตกกันมาเกือบทุกประเทศมหาอำนาจทั้งหลายเลยนัดประชุมกันที่เมือง Bretton Woods ในสหรัฐฯ เพื่อจัดระเบียบเศรษฐกิจโลกใหม่ สิ่งที่ออกมาคือ “ระบบ Bretton Woods” ที่พูดง่ายๆ คือ
- ทุกประเทศต้องผูกค่าเงินไว้กับ ดอลลาร์สหรัฐ
- ส่วนดอลลาร์ก็ไปผูกกับ ทองคำ ที่ราคา $35 ต่อออนซ์
เรียกได้ว่า ทุกสายตาในโลกการเงินเวลานั้น มองไปที่ “ทอง” กับ “ดอลลาร์” เป็นหลัก ใครจะคิดล่ะว่าวันหนึ่ง เทรดเดอร์วัยรุ่นจะมาเทรด AUD/JPY บนมือถือกันได้
ปี 1971 เมื่อดอลลาร์งอนทอง แล้วประกาศเลิกกันกลางวง
แล้วก็เกิดดราม่าระดับโลกในปี 1971 ประธานาธิบดีนิกสันของสหรัฐฯ ลุกขึ้นมาประกาศว่า...
“ต่อไปนี้ ดอลลาร์จะไม่ผูกกับทองแล้วนะจ๊ะ”
แค่นั้นแหละครับ ระบบพังพินาศทันที โลกเข้าสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า Floating Exchange Rate หรือ “อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว” หมายถึง… ค่าเงินจะลอยไปลอยมา ตามอารมณ์ตลาด เศรษฐกิจ การเมือง และทวิตของนักการเมืองบางคน ใครจะขึ้นจะลง ไม่มีใครควบคุมได้อีกต่อไป
จากสนามของแบงก์ใหญ่ สู่สนามของใครก็ได้ (ที่มีเน็ต)
ในช่วงแรกของยุค Forex ลอยตัว สนามนี้ยังเป็นของ “พี่เบิ้ม” อย่างธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทข้ามชาติ คือพูดง่ายๆ คนธรรมดาอย่างเรานี่ อย่าหวังเข้าไปยุ่งได้เลย แต่พอเข้าสู่ยุค 90s – 2000s โลกเปลี่ยน…อินเทอร์เน็ตมา, คอมพิวเตอร์มา, แพลตฟอร์มเทรดก็มา โบรกเกอร์ออนไลน์เริ่มเปิดให้เทรดด้วยเงินหลักร้อย หลักพัน จากนั้นไม่นาน… แอดก็เห็นคนเปิดพอร์ตจากคาเฟ่ เอา iPad เทรดทอง พร้อมจิบลาเต้
Forex วันนี้ ตลาดเงินระดับโลกที่ใครก็โดดเข้าได้
วันนี้ ตลาด Forex คือ
- ใหญ่ที่สุดในโลก (มูลค่าซื้อขายทะลุ 7 ล้านล้านเหรียญต่อวัน!)
- เปิด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
- ไม่ต้องมีพอร์ตหลักล้านก็เทรดได้ (มี Leverage ไงล่ะ)
- มีคู่เงินให้เลือกเหมือนเมนูร้านกาแฟ: EUR/USD, GBP/JPY, XAU/USD และอีกเพียบ
และทุกอย่างนี้… เริ่มมาจากการเปลี่ยนแปลงในอดีต ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
.
ตลาดเทรดค่าเงินที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะใครสักคนอยาก “เล่นกราฟ” แต่มันเกิดจากความปั่นป่วนระดับโลก จากวันที่ผู้นำประเทศเลิกผูกพันกับทองคำ จากวันที่สหรัฐอเมริกาเปิดประตูให้ค่าเงิน “ลอยตัว” ได้อย่างเสรี และจากวันที่นักลงทุนเริ่มมองเห็นโอกาสในสิ่งที่เคยเป็นเรื่องของรัฐเท่านั้น
กว่าเทรดเดอร์รายย่อยอย่างเราจะเข้าถึงตลาดนี้ได้ ก็ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีที่ซับซ้อนยาวนานหลายทศวรรษ สิ่งที่แอดอยากชวนคิดก็คือ การเทรด ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของตัวเลขบนหน้าจอ แต่มันคือการเข้าใจว่า “โลกทั้งใบ” ขับเคลื่อนด้วยอะไร และเมื่อเรารู้ว่าตลาดที่เราอยู่มีต้นกำเนิดอย่างไร เราก็อาจอ่านเกมได้ดีขึ้นกว่าคนที่แค่จ้องกราฟอย่างเดียว เพราะบางที… การเข้าใจ “อดีตของตลาด” อาจช่วยให้เรารอดใน “อนาคตของมัน” ก็ได้นะครับ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ปลอดภัยจริงหรือคิดไปเอง? ใช้ VPN เทรดต้องรู้ให้ชัดก่อนเสี่ยงพอร์ตพัง!
การใช้ VPN ในการเทรด Forex ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ปกป้องข้อมูล และลดความหน่วงของการเชื่อมต่อ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความเสถียรหรือเข้าถึงโบรกเกอร์ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้และใช้อย่างเหมาะสม เพราะ VPN ไม่ทำให้กำไรเพิ่ม แต่ช่วยให้เทรดได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น.

จากความหวังสู่ความพัง เมื่อ “Copy Trader” กลายเป็นกับดักความโลภของนักเทรด
กระแส “Copy Trader” ที่อ้างว่าสามารถคัดลอกการเทรดของมืออาชีพเพื่อสร้างกำไรโดยไม่ต้องวิเคราะห์เอง กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนหน้าใหม่ แต่เหตุการณ์ล่าสุดในไทยที่มีผู้เสียหายกว่า 10 ล้านบาทจาก “โค้ชสอน Copy Trade” ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของกลยุทธ์นี้อย่างชัดเจน เพราะเบื้องหลังความง่าย อาจซ่อนความไม่โปร่งใสและการหลอกลวง นักลงทุนควรตรวจสอบใบอนุญาต ผลการเทรดย้อนหลัง และเงื่อนไขค่าบริการอย่างรอบคอบก่อนลงทุน สุดท้าย Copy Trade ไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ “ความรู้ ความระมัดระวัง และวินัย” เช่นเดียวกับการเทรดด้วยตัวเอง.

อยู่รอดหรือพอร์ตแตก? คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ “Margin Level” ตัวเลขที่คุณควรรู้ก่อนเทรด
ในตลาด Forex ที่ผันผวนทุกวินาที “Margin Level” คือเส้นแบ่งระหว่างการอยู่รอดกับการล้างพอร์ต นักเทรดจำนวนมากพ่ายแพ้ไม่ใช่เพราะวิเคราะห์ผิด แต่เพราะไม่เข้าใจตัวเลขนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัด “สุขภาพของพอร์ต” ว่าคุณยังมีทุนรับความเสี่ยงได้แค่ไหน หากค่า Margin Level ต่ำเกินไป ระบบอาจปิดออเดอร์อัตโนมัติ (Stop Out) เพื่อป้องกันการขาดทุนเกินพอร์ต การรักษา Margin Level ให้อยู่ในระดับปลอดภัยจึงเป็นวินัยสำคัญของเทรดเดอร์มืออาชีพ — เพราะสุดท้ายแล้ว การเทรดที่ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของการชนะทุกไม้ แต่คือ “การอยู่รอดให้นานพอ” ในสนามที่โหดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกการเงิน.

WikiEXPO Dubai 2025 มหกรรมฟินเทคระดับโลกใกล้เปิดฉาก!
WikiEXPO Dubai 2025 มหกรรมฟินเทคระดับโลก จัดขึ้นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 ที่ดูไบ รวมกว่า 5,000 ผู้เข้าร่วมและ 200 พันธมิตรจากทั่วโลก มุ่งเน้นนวัตกรรมด้าน AI, RegTech, Tokenization และสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อผลักดันอนาคตการเงินที่โปร่งใส ปลอดภัย และยั่งยืน.
WikiFX โบรกเกอร์
AVATRADE
Plus500
Exness
ATFX
FXCM
IC Markets Global
AVATRADE
Plus500
Exness
ATFX
FXCM
IC Markets Global
WikiFX โบรกเกอร์
AVATRADE
Plus500
Exness
ATFX
FXCM
IC Markets Global
AVATRADE
Plus500
Exness
ATFX
FXCM
IC Markets Global

