简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
CIB บุกจับ e-Money เถื่อน 12 ราย เงินไหลออกนอกประเทศเกือบ 400 ล้าน!
บทคัดย่อ:ปอศ. เปิดปฏิบัติการ “Bye Bye Dark Wallets” บุกค้น 10 จุดทั่วประเทศ จับผู้ต้องหากลุ่มใหญ่ลักลอบให้บริการ e-Money ผิดกฎหมาย มียอดหมุนเวียนเกือบ 400 ล้านบาท พบเปิดบริการโอนเงินออกนอกโดยไม่ขออนุญาต-ไม่เสียภาษี แนะประชาชนตรวจสอบก่อนใช้บริการโอนเงินหรือ e-Money ว่าได้รับอนุญาตจากแบงก์ชาติหรือไม่ เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงด้านกฎหมายและความปลอดภัย

ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เปิดปฏิบัติการ “Bye Bye Dark Wallets” ลุยค้น 10 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหากลุ่มใหญ่ที่ลักลอบให้บริการระบบ “เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)” แบบผิดกฎหมาย มีเงินหมุนเวียนรวมเกือบ 400 ล้านบาท!
เบื้องหลังการจับกุมเรื่องนี้เริ่มต้นจากการตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มธุรกิจตัวกลาง ที่ให้บริการสั่งซื้อสินค้าจากจีนผ่านเว็บไซต์ ซึ่งดูเผิน ๆ เหมือนเป็นบริการทั่วไป แต่ลึกลงไปกลับพบว่า มีกลุ่มลักลอบเปิดระบบเงิน e-Money ที่ผูกเข้ากับบัญชีธนาคารหรือแอปฯ ต่าง ๆ เพื่อ “แอบโอนเงินออกนอกประเทศ” โดยไม่ผ่านการอนุญาตจากหน่วยงานรัฐ ไม่มีระบบคัดกรองผู้ใช้งาน และหลบเลี่ยงภาษีอีกด้วย
ตรวจพบว่า:
- มีผู้ให้บริการผิดกฎหมาย 5 บริษัท
- ไม่มีใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560
- มียอดเงินหมุนเวียนรวม เกือบ 400 ล้านบาท
ของกลางเพียบ!จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบของกลางจำนวนมาก เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รวมถึงพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มเถื่อน ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา “ให้บริการ e-Money โดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน และอยู่ระหว่างดำเนินคดีต่อไป
สรุปข้อควรระวังสำหรับประชาชนทั่วไป การใช้บริการ e-Money หรือโอนเงินต่างประเทศ ควรตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มเหล่านั้น ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ เพราะหากใช้บริการผิดกฎหมาย อาจมีความเสี่ยงทั้งในด้านความปลอดภัย และถูกตรวจสอบย้อนหลังได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ตำรวจสอบสวนกลาง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เจาะลึกคดี “โค้ชก๊อปปี้เทรด” พอร์ตแตก 10 ล้าน บทเรียนราคาแพงของนักลงทุนยุค TikTok
เกิดกรณีโค้ชสอนเทรดชักชวนนักลงทุนร่วมระบบ Copy Trade โดยอ้างกำไรวันละ 5% และความเสี่ยงต่ำ สุดท้ายพอร์ตแตก สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์และสภาทนายความอยู่ระหว่างตรวจสอบ เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้นักลงทุนระวังคำโฆษณาที่การันตีกำไร เพราะไม่มีใครควบคุมตลาดได้จริง.

ฝันร้ายซ้ำซ้อน! หุ้นทิพย์ CST Securities – VELTRIX ทำนักลงทุนสูญเงินกว่า 27 ล้าน
เกิดกรณีหลอกลงทุน “หุ้นทิพย์” ในไทย โดยแก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัท CST Securities และ VELTRIX เพื่อชักชวนผู้คนผ่านไลน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เปิดบัญชีลงทุน โดยแสดงผลกำไรปลอมเพื่อหลอกให้โอนเงินจริง ก่อนปิดกั้นการถอนเงิน ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเงินรวมกว่า 27 ล้านบาท เหตุการณ์นี้เป็น Hybrid Scam ที่ผสมผสานการหลอกหลายขั้นตอน ใช้ภาพลักษณ์ของบริษัทถูกกฎหมายสร้างความน่าเชื่อถือ เจ้าหน้าที่เตือนให้นักลงทุนตรวจสอบใบอนุญาตและชื่อโบรกเกอร์ให้ถูกต้อง ไม่โอนเงินเข้าบัญชีบุคคล และระมัดระวังต่อคำชักชวนผลตอบแทนสูงเกินจริง เพราะ “ไม่มีการลงทุนใดปราศจากความเสี่ยง”

นักลงทุนไทยโดนหนัก! โค้ชสอน Copy Trade สูญเงินกว่า 10 ล้าน
เกิดเหตุสะเทือนวงการลงทุน เมื่อกลุ่มนักเทรดไทยร้องเรียนต่อ ตำรวจไซเบอร์ สอท.1 หลังถูกหลอกให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม Copy Trade ตามคำแนะนำของโค้ชชื่อดัง สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยโค้ชอ้างการันตีกำไรวันละ 5% แต่ภายหลังกลับหายตัวไปพร้อมพอร์ตที่แตกทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นการ ฉ้อโกงทางการเงินหรือความเสี่ยงจากการลงทุนจริง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังบริการที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง และลงทุนบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและความรอบคอบ.

รวบ “จีนเทา” เอี่ยวแชร์ลูกโซ่คริปโต FINTOCH มูลค่ากว่า 456 ล้าน ซุกตัวในบ้านหรู
คดีสะเทือนวงการคริปโตไทยเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 บุกจับกุมนายเหลียง ไอ่-ปิง สัญชาติจีน หัวหน้าเครือข่ายแชร์ลูกโซ่คริปโต “FINTOCH” ที่ก่อคดีหลอกลวงนักลงทุนในจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 456 ล้านบาท ภายในบ้านพักหรูย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยพบว่าผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างหรูหราและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย FINTOCH ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนให้ผลตอบแทนสูง แต่แท้จริงคือโครงการหลอกลวงที่นำเงินนักลงทุนหนีออกนอกประเทศ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีน และถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้ผู้ลงทุนระมัดระวังแพลตฟอร์มคริปโตที่ไม่น่าเชื่อถือ แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะโปร่งใส แต่ “คน” ยังคงเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง.
WikiFX โบรกเกอร์
AVATRADE
JustMarkets
GTCFX
ATFX
EC Markets
FXCM
AVATRADE
JustMarkets
GTCFX
ATFX
EC Markets
FXCM
WikiFX โบรกเกอร์
AVATRADE
JustMarkets
GTCFX
ATFX
EC Markets
FXCM
AVATRADE
JustMarkets
GTCFX
ATFX
EC Markets
FXCM
